รายงานความคืบหน้า หลัง “บ.ฟอกหนังไทยรุ่งเรือง” ร้องรมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตรวจสอบมือดีฝังกากอุตสาหกรรมปนเปื้อนสารเคมี -พบการรุกล้ำคลองสาธารณะพื้นที่เทศบาลบางปู 52
หลังจากที่นายณัฐชัย ศรีตั้งศิริกุล กรรมการบริษัทฟอกหนังไทยรุ่งเรืองจำกัด นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ติดตามสังเกตการณ์ ร่วมกันตรวจสอบระหว่างกองตรวจมลพิษกรมควบคุมมลพิษ และอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมจากเทศบาลตำบลบางปูกรณีมีการนำกากอุตสาหกรรมปนเปื้อนสารเคมีฝังกลบพื้นที่ซอยเทศบาลบางปู 52 เมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมานั้น กองตรวจมลพิษกรมควบคุมมลพิษและอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมจากเทศบาลตำบลบางปู ได้มีหนังสือตอบกลับไปในแนวทางเดียวกัน สรุปใจความได้ว่า การจัดการกากอุตสาหกรรมฟอกหนังในพื้นที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด
แต่ระหว่างวันที่ 5 ถึง 10 มีนาคม พ.ศ. 2564 ที่รอการเข้าตรวจในโฉนดที่ดินเลขที่ 28997 และ 28998 ซึ่งเป็นทรัพย์สินของบริษัท เขตประกอบการอุตสาหกรรมฟอกหนัง กม.30 จำกัดนั้น ได้มีการปรับปรุงพื้นที่ โดยนำดินจากนอกพื้นเข้ากลบผิวดิน ทำให้ผิวดินในพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่ใช่ดินเดิมที่ควรจะนำมาตรวจสอบ
แม้จะมีการปรับปรุงผิวดินในพื้นที่แล้ว แต่การลงพื้นที่ตรวจสอบที่ดินแปลงดังกล่าวของกองตรวจมลพิษกรมควบคุมมลพิษเพียงหน่วยงานเดียว เมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2564 นั้น ทางบริษัทเขตประกอบการอุตสาหกรรมฟอกหนัง กม.30 จำกัด ยังไม่อนุญาตให้เจ้าพนักงานเก็บตัวอย่างดินไปตรวจสอบอีกด้วย ทำให้ไม่มีผลการตรวจสอบในที่ดินแปลงดังกล่าว และไม่สามารถตรวจสอบดินได้ครบถ้วนตามที่ได้ร้องเรียนไป
อ้างถึงความตอนหนึ่งจากหนังสือตอบกลับจากกรมควบคุมมลพิษ ที่ ทส 0307/6501 ลงวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2564
นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบน้ำในจุดปล่อยน้ำเสียจากบ่อบำบัดน้ำเสียของเขตประกอบการอุตสาหกรรมฟอกหนังในพื้นที่ แม้จะผ่านเกณฑ์มาตรฐานแต่กองตรวจมลพิษกรมควบคุมมลพิษได้ทำการตรวจน้ำเสียจากแหล่งน้ำใกล้เคียง(คลองตาแสง)ซึ่งอยู่ด้านหลังบ่อบำบัดน้ำเสียใกล้กับจุดปล่อยน้ำเสียของเขตประกอบการอุตสาหกรรมฟอกหนังในพื้นที่ พบว่ามีค่าต่ำกว่ามาตรฐานและยังพบสารเคมีที่อาจได้รับการปนเปื้อนจากของเสียในการประกอบกิจการอุตสาหกรรมฟอกหนังอีกด้วย
อ้างจากผลรายงานการตรวจสอบตัวอย่างน้ำแนบหนังสือตอบกลับจากกรมควบคุมมลพิษ ที่ ทส 0307/6501
ซึ่งในเบื้องต้นทางอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการได้ออกคำสั่งให้มีการปรับปรุงการแก้ไขกรณีดังกล่าว และกรมควบคุมมลพิษ มีหนังสือแจ้งจังหวัดสมุทรปราการในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 และเทศบาลตำบลบางปูในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 พิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ และแจ้งผลดำเนินการให้กรมควบคุมมลพิษทราบ
นายณัฐชัย ศรีตั้งศิริกุล เปิดเผยว่า นอกเหนือจากนั้นยังตรวจสอบพบการรุกล้ำแนวคลองเขตจากโรงงานฟอกหนังในพื้นที่มานานกว่า 40 ปี จากการตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศของ กรมแผนที่ทหาร เปรียบเทียบกับภาพจากเว็บไซต์ https://landsmaps.dol.go.th/
ภาพถ่ายทางอากาศแสดงระวางบริเวณซอยเทศบาลตำบลบางปู 52 โดยมีเส้นสีเขียวแสดงแนวคลองสาธารณะ
โดยปัจจุบันปัญหาการรุกล้ำคลองตาแสงนี้อยู่ระหว่างการรังวัดเพิ่มเติมจากสำนักงานที่ดินจังหวัดสมุทรปราการ เพราะการรังวัดในครั้งแรกไม่สามารถรังวัดได้ทั้งหมด เหตุจากไม่ได้รับความร่วมมือจากเจ้าของที่ดินข้างเคียงซึ่งเป็นผู้รุกล้ำ และอยู่ระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา-19 ทำให้ต้องมีการเลื่อนการรังวัดออกไป
อ้างจากความตอนหนึ่งจากหนังสือตอบกลับจากสำนักงานที่ดินจังหวัดสมุทรปราการ ที่ สป 0020(3)/10824
ภาพถ่ายรอยพ่นสีเพื่อแสดงแนวเขตคลองจากการสำรวจเบื้องต้นของสำนักงานที่ดินจังหวัดสมุทรปราการ(รอยพ่นสีแดง)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น