วันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2564

บริษัทเอกชน เดินหน้านำผลิตภัณฑ์สมุนไพรเคอร่า (Kerra)

บริษัทเอกชน เดินหน้านำผลิตภัณฑ์สมุนไพรเคอร่า (Kerra) ระดมแจกช่วยบุคลากรทางการแพทย์ และผู้ป่วย ศูนย์พักคอย รพ .สนาม และจำหน่ายให้ประชาชนทั่วไป ชู เคล็ดลับยับยั้ง เชื้อโควิค19สูงกว่าฟ้าทะลายโจร 2200เท่า พร้อมเผยที่มาสูตรยาตักศิลาสมุนไพรดั้งเดิมในคัมภีร์แพทย์ศาสตร์ฉบับหลวง โบราณ

นายภัทร หนังสือ ประธานกรรมการ บริษัท อีสเทิร์นเฮิร์บ และเวชกรโอสถ ผลิตภัณฑ์สมุนไพรเคอร่า (Kerra) พร้อมแพทย์หญิงเกษกมล เปลี่ยนสมัย นางพัชรวลัย รัตนศิริวัฒนา และทีมงาน ลงพื้นที่นำยาสมุนไพรเคอร่า จำนวน 400 กระปุก มามอบให้กับทาง ศูนย์พักคอยโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแหลมฟ้าผ่า จ.สมุทรปราการ


โดยมีนายณรงค์ สุกใส ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ พร้อมทีมงานบุคลากรทางการแพทย์เป็นผู้รับมอบเพื่อใช้กับบุคลากรทางการแพทย์ในศูนย์พักคอยและผู้ป่วย Home Isolation เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการยับยั้งอาการของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ต่อไป



โดยนายภัทร เปิดเผยว่าสำหรับยาเคอร่าที่นำมามอบให้ ในครั้งนี้เป็นยาตำรับสมุนไพร ที่ใช้สมุนไพรที่เป็นส่วนผสมหลักเก้าชนิด ซึ่งได้สูตรยาตั้งแต่ดั้งเดิมเป็นคัมภีร์ตักศิลา อยู่ในคัมภีร์แพทย์ศาสตร์ฉบับหลวง พิมพ์ตั้งแต่ปี 2440 ในสมัยรัชกาลที่5 โดยได้นำตำรับยา ในแพทย์ศาสตร์ฉบับหลวง ก็คือเดิม ชื่อยาครอบไข้ตักศิลา ในคัมภีร์ตักศิลา ตัวยาครอบไข้ตักศิลานี้  ทางบริษัทฯได้นำมาพัฒนา ปรับเปลี่ยนตัวยาให้เหมาะสมกับการจัดหาตัวยาในปัจจุบัน รวมทั้งพัฒนากรรมวิธีการผลิต โดยใช้ความร้อนและความเย็นในการ สกัดและเพิ่มประสิทธิภาพของตัวยา ให้สูงขึ้น จนมีผลในการยับยั้งไวรัสได้สำเร็จ


ทั้งนี้จากผลการวิจัยในห้องทดลองของห้องปฏิบัติการชีวเคมี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ยืนยันถึงผลการวิจัยทดลองชัดเจนว่า ยาสมุนไพรเคอร่า มีประสิทธิภาพในการยับยั้งเอนไซม์กลไกหลักในการขยายตัวของไวรัส ที่ชื่อ main protease(เมนโปรติเอส) ที่ไวรัสโควิด 19 ใช้ในการขยายตัวเพิ่มจํานวนในร่างกายซึ่ง  มากกว่าหรือสูงกว่าฟ้าทะลายโจร 2,200 เท่า ซึ่งมีประสิทธิภาพการยับยั้งเอนไซม์ main protease ที่สูงกว่าฟ้าทะลายโจร และสูงกว่ายาแผนปัจจุบันหลายชนิดที่เป็นยาต้านไวรัส  ซึ่งที่ผ่านมาโควิดสายพันธุ์เดลต้าที่ทราบกันว่า สามารถขยายตัวเร็วกว่าสายพันธุ์เบต้า เป็นพันเท่า เป็นการขยายตัวเร็วมากจึงต้องทำการศึกษาวิจัยตัวมาสกัดกั้นการขยายตัวของไวรัสไม่ให้ขยายตัวในร่างกายเร็วเกินไป จนทำให้เกิดภาวะที่เป็นอันตรายที่ลุกลามลงปอด จนต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ให้ออกซิเจน ซึ่งค่อนข้างเป็นอันตรายและทำให้เกิดการสูญเสียที่เกิดขึ้น ยาเคอร์ร่า จึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการรักษาผู้ป่วย และป้องการการสียชีวิตที่เกิดขึ้นและยืนยันว่ายาชนิดดังกล่าวสามารถกินยาต่อเนื่องที่ไม่ผลข้างเคียงด้วยโดยเฉพาะโรคไต ที่มีความกังวลใจเรื่องของการทานยาสมุนไพรด้วยซึ่งขณะนี้ สามารถผลิตได้กว่าวันละ1แสนกระปุ๊ก โดยบางส่วนได้ร่วมบริจาคให้กับศูนย์พักคอยและ รพ.สนามและบางส่วนจำหน่ายให้ประชาชนทั่วไป

"การกินยาสมุนไพรของเราต้องกัดให้แตกซึ่งยาจะกระจายไปจับในลำคอซึ่งจะสกัดเขื้อโรคที่จะลงสู่ปอดเป็นด่านแรกของการแพร่กระจายของไวรัส โดย บุคลากรทางการแพทย์ ที่เสี่ยง สามารถกินเพื่อสกัดการติดเชื้อได้เลยวันละ2ครั้ง เช้าก่อนเข้าพื้นที่ปฎิบัติงานและก่อนนอนครั้งละ2เม็ดเพราะไม่รู้จะติดเชื้อเมื่อไหร่ตอนนี้มีการทดสอบพบว่า คนที่กินยาสามารถยับยั้งการติดเชื้อได้  ค่อนข้างดี ยืนยันว่ากินต่อเนื่องโดยไม่มีผลข้างเคียงใดๆด้วย"นายภัทร์กล่าว

อย่างไรก็ตาม การ แจกจ่ายยาให้กับศูนย์พักคอยในครั้งนี้ ตนเห็นว่าองค์กรของตนเป็นองค์กรเอกชนเล็กๆ ที่พยายามช่วยเหลือสังคมตามกำลังที่พอจะทำได้และพยายามที่จะช่วยหน่วยงานต่างๆเพื่อที่จะสร้างความปลอดภัยกับผู้ป่วยและพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด เพราะคิดว่า ในครอบครัวที่อยู่กันหลายคน แล้วเกิดการสูญเสียในอนาคตจะก่อให้เกิดปัญหาสังคมต่างๆตามมา เด็กจะกำพร้า จึงพยายามคิดค้นตัวยาที่จะหยุดการสูญเสีย จึงได้นำยาบางส่วนไปแจกให้ รพ สนาม  และศูนย์พักคอยตามกำลังที่พอจะทำได้ 

นายภัทรกล่าวด้วยว่าในส่วนที่มีข่าวว่าผลิตภัณฑ์สมุนไพรเคอร่า (Kerra) มิได้มีสรรพคุณหรือมีฤทธิ์ในการช่วยรักษาการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และไม่มีผลวิจัยที่ได้รับยอมรับรวมถึงที่มีข่าวว่า ทางกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งห้ามจำหน่ายยาเคอร่า นั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริงเพราะที่ผ่านมาทางบริษัทฯ ได้ออกมาชี้แจ้งให้ประชาชนรับทราบว่า ไม่เคยโฆษณาชวนเชื่อ และเกินจริงว่าสามารถรักษาอาการป่วยโควิดได้ แต่มีผู้ป่วย COVID-19 ที่ได้ทานยาเคอร่า ที่เรานำเอาไปให้ ทานแล้วหายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในรพ.สนามในหลายพื้นที่จากนั้นก็มีการบอกต่อๆกันไป ทำให้ปัจจุบันนี้ มีผู้สนใจและสั่งซื้อยามาในแต่ละวันเป็นจำนวนมาก โดยผู้ที่สนใจยาสมุนไพร เคอร่า สามารถแอดไลน์ @herbline https://shop.line.me/@herblineเข้ามาสั่งซื้อได้โดยตรงที่เดียวเท่านั้นและยืนยันว่าไม่ได้มีตัวแทนจำหน่ายเด็ดขาด

จากนั้น นั้นนายภัทร พร้อมทีมงานได้เดินทางไปยัง สำนักงานเขตคันนายาว เพื่อไปมอบยาสมุนไพรเคอร่า จำนวน400กระปุก โดย มีนายชูชาติ พุ่มน้อย ผอ.เขตคันนายาว พ.ต.อ.ชัยรพ จุณณวัตต์ จิตอาสา904 สังกัดตำรวจนครบาล พร้อมทีมงานเป็นผู้รับมอบ  เพื่อมอบให้กับประชาชนผู้ติดเชื้อที่รอการช่วยเหลือต่อไป

ขณะเดียวกันยังยาสมุนไพรเคอร่ากับ พ.ต.อ.ธีรยุทธ ใหม่แปง ผกก.สน.บึงกุ่ม และ พ.ต.อ.กิตติ แสงศิริวุฒิ ผกก.สน.บางชัน เพื่อนำไปมอบต่อให้กับเจ้าหน้าที่ส่วนหน้าของ สน.บึงกุ่ม จำนวน 100 กระปุก และ สน.บางชันจำนวน 100 กระปุกเพื่อแจกจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฎิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยงต่อไปด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น