วันอังคารที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2564

อว. เผยคนกรุงใส่หน้ากากอนามัยดีขึ้นมาก จากการประชาสัมพันธ์หลังการเกิดคลัสเตอร์ตลาดบางแค

เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2564 ศาสตราจารย์ ดร.ธนารักษ์ ธีระมั่นคง สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม(อว.) รายงานผลการติดตามการใส่หน้ากากอนามัยโดยระบบปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ว่าหลังเกิดคลัสเตอร์ตลาดบางแค ประชาชนให้ความสนใจและให้ความระมัดระวังมากขึ้น ทำให้มีแนวโน้มอัตราการใส่หน้ากากดีขึ้นมากอย่างต่อเนื่อง

ในช่วงครึ่งหลังของเดือนมีนาคมที่ผ่านมา คนกรุงเทพฯใส่หน้ากากอนามัยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้ที่ไม่ใส่หน้ากากหรือใส่ไม่ถูกต้องรวมกันลดลงเหลือเพียง 4.00% เมื่อเทียบกับ ช่วงครึ่งแรกของเดือนมีนาคมที่แล้วที่มีอัตราไม่ใส่หรือใส่ไม่ถูกต้องสูงถึง 5.64%

ตัวเลขการใส่หน้ากากอนามัยโดยเพิ่มเป็น 96.00% เมื่อเทียบกับครึ่งแรกของเดือนมีนาคมที่ 94.36% ที่ผ่านมา มีข้อมูลชัดเจนว่าประชาชนมีความระมัดระวังมากขึ้นหลังเกิดคลัสเตอร์ตลาดบางแค อย่างไรก็ตามช่วงศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ จะมีอัตราส่วนการใส่หน้ากากอนามัยน้อยกว่าช่วงวันทำงาน แม้ช่วงหลังเริ่มมีการฉีดวัคซีนแจกจ่ายให้ประชาชน แต่ประชาชนก็ยให้ความสำคัญต่อการใส่หน้ากากอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมาก

ในการใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ เอไอมาสต์ มาตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม 2564 ที่ผ่านมา โดยทำการเฝ้าระวังการใส่หน้ากากอนามัยมาเป็น 33 จุด ครอบคลุม 31 เขตทั่วกรุงเทพฯ ในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้โดย พบว่าเขตยานนาวา มีประชาชนผู้สัญจรที่ไม่ใส่หน้ากากหรือใส่ไม่ถูกต้องมากที่สุดถึง 21.58% หรือสูงถึง 1 ใน 5 คน  โดยถัดมาเป็นเขตสาทร 

ที่มีอัตราการใส่หน้ากากไม่ถูกต้องหรือไม่ใส่หน้ากากอนามัยสูงถึง 10.64% นอกจากนี้ยังมีเขตที่มีอัตราการไม่ใส่หน้ากากอนามัยหรือใส่ไม่ถูกต้องต่ำกว่า 10% แต่สูงกว่า 5% อยู่อีก 9 เขตคือ เขตคลองสาน (9.37%) เขตดอนเมือง (9.26%) เขตบางคอแหลม (8.14%) เขตสัมพันธวงศ์ (6.87%) เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย (6.85%) เขตบางรัก (6.48%) เขตจอมทอง (6.40%) เขตบางกอกใหญ่ (6.03%) และเขตบางกะปิ (5.67%)

ภาพโดยรวมแล้ว พฤติกรรมของประชาชนในช่วง 2 สัปดาห์ล่าสุดนั้นมีแนวโน้มดีขึ้นมาก และเช่นที่ผ่าน ช่วงเช้าประชาชนใส่หน้ากากอนามัยมากกว่าในช่วงบ่าย ซึ่งแสดงถึงความระมัดระวังน้อยลงในตอนเย็นของแต่ละวัน  นอกจากนี้ในวันหยุดโดยเฉพาะวันอาทิตย์จะมีแนวโน้มอัตราการไม่ใส่หน้ากากหรือใส่หน้ากากอนามัยไม่ถูกต้องสูงสุดในทุกสัปดาห์ 

"หลังจากที่ได้ใช้เทคโนโลยีเอไอมาประเมินมาได้ 2 เดือนตั้งแต่เดือนมกราคม อว.พบว่าอัตราการใส่หน้ากากอนามัยลดลงทำให้เกิดคลัสเตอร์ใหม่ๆเช่นตลาดบางแค แต่หลังจากมีข่าวดังกล่าว มีกระตุ้นและรณรงค์ขอความร่วมมือการสวมใส่หน้าการอนามัย และขอให้ประชาชนระมัดระวังมากขึ้น ทำให้มีการให้ความร่วมมือ มากขึ้น” 

ทั้งนี้สถานการณ์เรื่องโรคโควิดของประเทศกำลังดีขึ้นมาก “ขณะนี้ประเทศไทยได้เริ่มใช้วัคซีนแล้ว และเห็นแนวโน้มที่ดีขึ้นจึงอยากให้ประชาชนรักษาระเบียบวินัยให้ต่อเนื่อง โดยจะมีจำนวนผู้ฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ประชาชนยังต้องระมัดระวังตัวเอง โดยเฉพาะใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ และรักษาระยะห่างระหว่างบุคคล ระวังอย่าให้การ์ดตกโดยเฉพาะ ช่วงสงกรานต์ที่จะถึงในสัปดาห์หน้าที่จะถึงนี้“  ศ.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล  ปลัดกระทรวง อว. กล่าวสรุป

แหล่งข้อมูล: โครงการระบบปัญญาประดิษฐ์ (ระบบเอไอ AiMASK) ในการประเมินการใส่หน้ากากอนามัย พัฒนา โดยคณะผู้วิจัยสถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สมาคมปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย และโครงการซูเปอร์เอไอเอ็นจิเนียร์ 

สนับสนุนโดยสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น